ชีวิต “มนุษย์ออฟฟิศ” ถ้าต้องอยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยม หันซ้ายก็เจอเพื่อนร่วมงาน หันขวาก็เจอเจ้านาย เอิ่มมมมม เป็นอย่างนี้ทุกวันๆ ก็แอบเบื่อได้เหมือนกันนะ แต่ลองนึกดูสิว่าถ้าได้นั่งทำงานใน office ที่ตกแต่งชิคๆ เก๋ๆ บรรยากาศดี๊ดี อย่าง 5 office นี้ล่ะก็… รับรองว่าต้องอยากจะฝังตัวอยู่ในที่ทำงานทุกวันเลยล่ะ
เป็น office ที่แฮปปี้ตั้งแต่การเดินทางมาทำงานของบรรดาพนักงาน เพราะ DTAC Head Office นี้ตั้งอยู่ที่ จามจุรีสแควร์ มุมสี่แยกสามย่าน ติดกับรถไฟฟ้าใต้ดินมีเนื้อที่กว่า 62,200 ตารางเมตร อยู่ที่ 32-34 และมีชั้น 38 อีกชั้นที่จัดให้เป็นส่วนเอนเตอร์เทนจิตใจหลังเลิกงาน
คอนเซ็ปต์การออกแบบออฟฟิศของ dtac เน้นให้พนักงานรู้สึกถึงความมีอิสระในการทำงาน ไม่ใช่จำกัดแค่จะต้องนั่งทำงานๆ ที่โต๊ะตัวเองแค่นั้น อย่างที่ชั้น 33-32 จะมีสไลด์เดอร์ให้พนักงานไว้เล่นแก้เครียดอย่างสนุกสนาน พื้นที่ส่วนใหญ่จัดให้สำหรับพนักงานไว้ใช้งาน แถมยังมีส่วนสวัสดิการพนักงานทั้งห้องเด็กเล่น ห้องให้นมบุตร ห้องละหมาด ส่วนห้องผู้บริหารจัดได้ว่ามีขนาดไม่ใหญ่มาก เรียกว่าเน้นความสบายให้พนักงานมากกว่าเจ้านาย
โต๊ะและเก้าอี้ทำงานก็ออกแบบคำนึงถึงสุขภาพคนนั่ง นั่งนานๆ ได้โดยไม่เกิดออฟฟิศซินโดรม วิวที่มองออกจากตึกแสนจะสบายตา ฝั่งหนึ่งมองเห็นต้นไม้เขียวๆ ของจุฬาฯ และสวนลุมพินี อีกฝั่งมองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาลิบๆ นั่งทำงานล้าๆ ก็ชมวิวพักสายตาได้
ชื่อห้องแต่ละห้องตั้งเป็นชื่ออำเภอที่มีเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ การออกแบบตกแต่งของออฟฟิศนี้ใช่ว่าจะเก๋อย่างเดียว แต่ยังคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมด้วย กระจกก็เป็นแบบ 2 ชั้น กันความร้อนจากด้านนอกไม่ให้แอร์ทำงานหนักเกินไป ใช้หลอดไฟ T5 ประหยัดไฟ พรมที่ใช้ทั้งหมดทำจากขวดน้ำพลาสติกรีไซเคิล เก็บเสียงจากการเดินได้ดีเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งแต่ละชิ้นเป็นสไตล์โมเดิร์น 80% ผลิตในเมืองไทย จัดวางตรงไหนก็สวยเก๋น่านั่งไปซะหมด
เลิกงานแล้วคิดว่าพนักงาน dtac คงยังไม่อยากกลับบ้าน เพราะขึ้นไปที่ชั้น 38 ได้จัดให้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ มีตั้งแต่ฟิตเนส โยคะ ตีปิงปอง แทงสนุ้ก ลู่วิ่ง สนามฟุตซอลในร่มขนาดย่อม และห้องร้องคาราโอเกะ กิจกรรมเยอะจนไม่อยากกลับบ้าน ถ้าได้มาทำงานที่ออฟฟิศนี้ล่ะก็ เพลินยิ่งกว่านอนอยู่บ้านซะอีก
บริษัทโฆษณาชื่อดังที่มีออฟฟิศกว่า 140 แห่ง อยู่ใน 80 ประเทศทั่วโลก และออฟฟิศที่เมืองไทยนี้บอกเลยว่าเก๋มากๆ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ออฟฟิศที่ให้แรงบันดาลใจสนุกสนานดึงดูดใจให้มาทำงาน และไม่สร้างความเครียด”
ตั้งอยู่ที่ชั้น 25 อาคารสาธรซิตี้ทาวเวอร์ มีพื้นที่จำกัดเพียง 400 ตารางเมตร แต่ออกแบบใช้พื้นที่ใช้สอยได้คุ้มค่า เหมาะกับการสร้างสรรค์งานโฆษณาซะเหลือเกิน เข้ามาในออฟฟิศจะรู้สึกถึงความกระปรี้กระเปร่าจุดพลังในการทำงาน เริ่มตั้งแต่รสบัสสีขาวคันเบ้อเริ่มที่ออกแบบเป็นเคาน์ทเตอร์ตอนรับแขกผู้มาเยือน
ชิคสุดๆ กับผนัง “มอนสเตอร์ วอลล์” สัตว์ประหลาดรูปร่างแปลกๆ ยาวถึง 20 เมตร ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของ Saatchi & Saatchi ไปซะแล้ว ผนังนี้ทำหน้าที่เป็นกระดานปักหมุดฝากผลงานไอเดียเจ๋งๆ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานให้กับคนที่ได้เห็น และแถมกิมมิกของการใช้สอยเล็กๆ น้อยๆ โดยส่วนที่เป็นเหงือกของตัวสัตว์ประหลาดถูกออกแบบให้เป็นชั้นวางหนังสืออีกด้วย
ออฟฟิศแบ่งเป็น 2 โซน โซน creative ตกแต่งแบบโล่งกว้างและสว่างเพื่อให้ทุกคนสามารถติดต่อสื่อสารกันและแชร์ความคิดกันได้ อีกฝั่งหนึ่งโซนบริหารจัดการใช้ผนังและเพดานเน้นสีโทนเข้ม แต่ตกแต่งด้วยสีสันสดใสแสดงถึงความต้องการความตื่นเต้นในการทำงาน และถ้าลองได้มานั่งประชุมที่นี่รับรองว่าจะมีพลังในการขับเคลื่อนไอเดีย ด้วยการออกแบบขาโต๊ะประชุมที่ใช้ล้อรถจักรยานแทนขาโต๊ะธรรมดาๆ ส่วนโต๊ะเป็นกระจกใสที่สามารถแยกเป็นโต๊ะตัวเล็กได้ 2 ตัว ดูสนุกและสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งาน
ยังมีห้องประชุมเล็กที่ออกแบบมาเหมือนกับที่นั่งในรถไฟ ให้ความเป็นส่วนตัวและให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากด้านนอก ไฮไลท์ของที่นี่อีกจุดหนึ่งคือบาร์ที่ได้ไอเดียมาจาก Daybed ที่สามารถเปลี่ยนเป็นครัวหรือบาร์ได้ หรือจะเปลี่ยนเป็นมุมพักผ่อน นั่งอ่านหนังสือก็ได้ ไม่แปลกใจที่ที่ออฟฟิศนี้จะเป็นที่ถูกใจของพนักงานทุกคน
สถานีโทรทัศน์ที่เดินชมได้เพลินๆ สร้างปฏิสัมพันธ์ให้พนักงานด้วยการทำเป็นอาคารแนวราบสะดุดตาด้วยผิวคอนกรีตเปลือยสีเทาอ่อนและเต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียว
ออกแบบเป็น 3 ส่วน มีทั้งสำนักงาน สิ่งอำนวยความสะดวก และ สตูดิโอ ในพื้นที่ 40,000 ตารางเมตร โดยใช้พื้นที่สีเขียวเชื่อมต่อระหว่างอาคารทั้ง 4 คืออาคารสำนักงาน อาคารจอดรถ สตูดิโอ และศูนย์การเรียนรู้ที่เปิดให้บริการกับบุคคลภายนอกอีกด้วย
เพราะเหตุผลที่อยากสื่อให้เห็นความเป็นสถานีโทรทัศน์ที่ดูทันสมัย และอยากให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการนำเสนอรายการทีวี ที่นี่จึงตกแต่งออฟฟิศในสไตล์โรงงาน เน้นที่วัสดุตั้งแต่แท่งคอนกรีต เหล็กโครงสร้าง อลูมิเนียม และกระจก ภายใต้แนวคิด ‘New Factory’ โรงงานใหม่ที่ผลิตสื่อโทรทัศน์ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม มาเริ่มเดินชมโรงงานนี้กันเลยดีกว่า
กลุ่มอาคารที่นี่ตั้งเรียงขนานกันตามแนวตะวันออก-ตก ตรงกลางมีพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมต่างๆ ได้ เหมือนเป็น Community ย่อยๆ ที่มีทั้งโรงละครกลางแจ้ง ลานกิจกรรม คันนาจำลองที่แทรกไปตามแนวต้นตาล มีสระน้ำที่ได้สะท้อนความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน เดินไปตรงไหนก็รู้สึกร่มรื่นและเข้าถึงธรรมชาติ
แม้จะมีความแข็งกระด้างของผนังคอนกรีตในรูปแบบของโรงงานแต่เมื่อมีแสงแดดส่องมาที่ผนังเกิดเงาสะท้อนก็ลดความรู้สึกนั้นออกไปได้ ที่โดดเด่นที่สุดเห็นจะเป็นบันไดโถงในอาคารที่มีสีสันสดใสกระชากอารมณ์ให้รู้สึกคึกคักในการทำงาน และที่นี่ส่วนใหญ่สร้างด้วยวัสดุโปร่งแสง คนข้างนอกจึงมองเห็นคนที่ทำงานอยู่ข้างในได้และคนทำงานอยู่ข้างในก็สามารถชมวิวภายนอกได้อย่างไม่รู้สึกอึดอัด
ถึงแม้การทำงานในสถานีโทรทัศน์จะเป็นงานที่ไม่เป็นเวลา บางทีทำทั้งวันทั้งคืน แต่ถ้าสถานีโทรทัศน์ออกแบบมาได้ชิลขนาดนี้ พนักงานคงทำงานจนลืมวันลืมคืนกันเลย นึกว่าทำงานอยู่ “ออฟฟิศในสวน”
Update: บทความนี้ได้รับเกียรติจากช่อง ThaiPBS ไปออกรายการด้วยค่ะ เชิญลองชมที่นี่ค่ะ
หมู่บ้านนักคิดย่านซอยลาดพร้าว 18 ที่มีคอนเซ็ปต์ “บรรษัทชุมชนสร้างสรรค์” ประกอบไปด้วยโปรดักชั่นเฮ้าส์ ให้เช่าสตูดิโอ เช่ากล้อง รับทำแอพพลิเคชั่น ทำโซเชียลคอนเทนต์ ถึงแม้จะมีพื้นที่ไม่มากนักแต่จัดสรรพื้นที่ใช้สอยได้อย่าลงตัวตามสไตล์นักคิด
ด้วยการตกแต่งตึก 2 ชั้นในสไตล์ Industrial Loft ใช้ปูนเปลือยและเหล็กเป็นส่วนใหญ่ ใช้เฟอร์นิเจอร์ในสไตล์สแกนดิเนเวียนและไทยผสมผสานกันอย่าลงตัว มีสตูดิโอขนาดใหญ่กำลังดีให้ลูกค้าที่มาใช้บริการสามารถมองเห็นสตูดิโอถ่ายทำงานได้จากมุมสูง
จากความคิดที่ว่า “การทำงานให้มีความสุข สถานที่เป็นสิ่งสำคัญ” ที่นี่จึงมีพื้นที่ฟุ่มเฟือยให้กับพนักงานได้ใช้สอยเยอะมาก ทำงานอยู่ชั้น 2 เครียดๆ ก็สามารถลงมาผ่อนคลายในสวนสวยกลางออฟฟิศได้ ในบางครั้งสวนนี้ก็ได้ถูกแปลงร่างเป็นสถานจัดนิทรรศการเล็กๆ หรือไม่ก็กลายเป็นลานปาร์ตี้วันเกิดของพนักงานในบางครั้งบางคราว ที่นี่เน้นการมีปฏิสัมพันธ์ของพนักงานมากๆ โดยเฉพาะการจัดปาร์ตี้ไม่ว่าจะวันเกิดหรือเลี้ยงส่งพนักงาน โดยจะมีธีมสนุกๆ ให้พนักงานได้ครีเอทไอเดียกันสุดๆ เหมือนเป็นชั่วโมงกิจกรรมแห่งความสนุกของที่นี่และถึงแม้จะทำงานเครียดจนดึกดื่นหรือข้ามวันช้ามคืน ก็ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่แหล่งอาหารประทังชีวิต เพราะมี Alphabet Coffee Bar คอยเสิร์ฟกาแฟสดหอมกรุ่นชา น้ำปั่นไปจนถึงอาหารจานหลักที่เน้นอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพของพนักงาน แถมราคาก็พิเศษให้พนักงานด้วย
หมู่บ้านแห่งนี้มีพนักงานกว่า 60 คน แต่ไม่น่าเชื่อว่าทุกคนรู้จักกันหมด เป็นเหมือนหมู่บ้านที่ประกอบไปด้วยญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงที่แต่ละคนมีความถนัดแตกต่างกันแต่มาอยู่ร่วมกันได้อย่างอบอุ่นและน่าอยู่มากจริงๆ
สุดท้ายมาชมอีกออฟฟิศที่สวยไม่แพ้ใคร นั่นคือ บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) บริษัทอีเว้นท์ชื่อดัง ด้วยความที่ CMO โดนเด่น ในเรื่องของงานครีเอทีฟ จึงได้ลงทุนสร้างอาณาจักร “Bangkok Creative Playground” ขึ้นมาบนพื้นที่ 12 ไร่ เพื่อให้เป็นศูนย์กลางทางด้านงานอีเว้นท์และความคิดสร้างสรรค์ที่ใหญ่และครบวงจรที่สุดในอาเซียน ภายใต้อาณาจักรนี้ยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานใน CMO Group ทั้ง 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน), บริษัท พีเอ็ม เซ็นเตอร์ จำกัด และ บริษัท ดิอายส์ จำกัด รวมถึงเป็นที่ตั้งของศูนย์ประติมากรรมกรุงเทพอีกด้วย
โดยที่ CMO นี่มีคอนเซ็ปต์ในการทำงานว่า “Work Live Play” คือเป็นทั้งที่ทำงาน ทั้งที่ใช้ชีวิตของพนักงาน และยังเป็นที่เล่นสนุก เพื่อให้พนักงานมีแรงบันดาลใจในการทำงาน ได้ทำงานภายใต้สิ่งแวดล้อมที่สร้างสรรค์และมีความสุขกับการทำงานให้มากที่สุด
เดินเข้ามาที่นี่จะเห็นว่ามีอาคาร 3 อาคาร ที่โดดเด่นในด้านการออกแบบด้วยแนวคิดที่ต่างกัน ตึกแรกคือ บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) ทำธุรกิจอีเว้นท์และการตลาดแบบสร้างประสบการณ์ ตึกนี้จะรวมพิพิธภัณฑ์ศูนย์ประติมากรรมกรุงเทพ ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ด้านประติมากรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเข้าด้วยกัน
ตึก CMO นี้ จะโดดเด่นด้วยการสร้างพื้นที่ ให้เป็น Informal Interaction นั่งทำงานตรงไหนก็ได้ และมีจุดสันทนาการวางไว้หลายจุดเพื่อให้เกิดการใช้พื้นที่ร่วมกันของพนักงาน
มาต่อกันที่ตึก บริษัท ดิอายส์ จำกัด ตึกนี้จะเป็นโปรดักชั่น เฮ้าส์ เน้นความเป็นสตูดิโอ มีห้องตัดต่อที่เชื่อมโยงกันได้หมด อาคารเก๋ตรงที่ด้านนอกเป็นเปลือกหุ้มกระจกเป็นโลหะสีเงินเจาะรูไว้ระบายอากาศ เรียกว่า Double Shell ทำให้ความร้อนที่ไปกระทบกับกระจกลดลงกว่า 70% เพื่อให้อุณหภูมิบนตัวอาคารลดลงและช่วยประหยัดพลังงาน
และสุดท้ายของ CMO Group เป็นตึกของบริษัท พีเอ็ม เซ็นเตอร์ จำกัด คอนเซ็ปต์มาจากการใช้กล่องสามกล่องมาประกอบกัน คือมีกล่องออฟฟิศด้านหน้า แล้วก็มีกล่องกระจกใบหนึ่งลอยอยู่ข้างบน ถ้าวิ่งทะลุเข้าไปในกล่องสุดท้ายจะเจอโกดังขนาดใหญ่ มีหลังคาที่มีความยาวเพื่อให้แสงส่องโดยตรงให้อารมณ์เหมือนห้องใต้หลังคา
บรรยากาศออฟฟิศนี้ดูเหมือนกำลังเดินชมงานศิลปะในแกลอรี่ซะมากกว่านับว่าเป็นออฟฟิศในฝันของคนทำงานด้านความคิดสร้างสรรค์ ถ้าได้นั่งทำงานที่นี่คงมีไอเดียบรรเจิดเกิดขึ้นมากมายทีเดียวเชียว… ไม่เชื่อลองชมคลิป office CMO ได้เลย
การทำงานในออฟฟิศสวยๆ กับบรรยากาศสบายๆ ก็ทำให้ชีวิตการทำงานมีความสุขได้ทุกวัน แต่การได้ทำงานในสิ่งที่ตัวเองรักและชอบก็ทำให้มีความสุขในการทำงานได้ไม่แพ้กันนะคะ 🙂
ใครสนใจหาไอเดียการออกแบบออฟฟิศแบบ โฮมออฟฟิศต่อ ก็คลิ้กได้ที่นี่ค่ะ
รวมโฮมออฟฟิศไอเดียดี จัดโต้ะและตกแต่ง ให้ได้แรงบัลดาลใจทุกวัน
ขอขอบคุณภาพถ่าย
DTAC dtac.co.th / Saatchi & Saatchi karmatrendz.wordpress.com / ThaiPBS planassociates.co.th และ august.co.th / G VILLAGE G VILLAGE / CMO CMO Group
Credit: https://www.iurban.in.th/